วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4
วันพฤหัสบดี ที่ 10 กันยายน 2558
เวลาเรียน 9.00-12.30 น.

ความรู้ที่ได้รับ
   อาจารย์สอนร้องเพลงเก็บเด็ก ชื่อเพลง บะหมี่หมูสับ และร้องทบทวนเพลงเก่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากนั้นอาจารย์จากเนื้อเพลงใหม่อีก 5 เพลง และสอนฝึกร้องเพลงใหม่ด้วย


   อาจารย์มีแผ่น DVD เพลงมาให้และให้เพื่อนๆทุกคนไปไลค์ เพื่อเก็บไว้เป็นความรู้ต่อไป หลังจากนั้นอาจารย์แจกใบงานให้ทำในห้องเรียน เป็นใบงานเก็บคะแนน


   เสร็จจากการทำใบงาน อาจารย์ก็เริ่มสอนทฤษฎี หัวข้อแนวคิดนักการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ซึ่งประกอบไปด้วยนักการศึกษาแต่ละท่าน และผลงานการทดลองของนักการศึกษา
   มีกิจกรรม ลิ้นพันกัน ให้นักศึกษาเป็นตัวแทนออกมาพูดตามประโยคในสไลน์ที่อาจารย์หามา และให้พูดเร็วๆ โดยไม่ต้องดู ซึ่งมีตัวแทนออกมา 7 คน



   จากอาจารย์มีตั้งคำถามขึ้นมาแล้วให้นักศึกษาตอบทีละคนโดยวนเป็นวงกลมที่นั่งในห้อง ช่วงแรกเป็นการตอบแบบไหนก็ได้ จากนั้นเป็นการตอบคำตอบที่คิดว่าดีที่สุด เพื่อนๆในห้องสนุกสนานการมาก รวมทั้งตัวฉันเอง
   หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมต่อ คือ กิจกรรมการฝึกเป็นคุณครูหน้าชั้นเรียน ควรเล่นพับเพียบให้เรียบร้อยและให้ถือปากกาที่จะเรียนตลอดเวลาเพื่อความสะดวกในการหยิบจับเร็ว และเวลาเขียนไม่ให้เอาตัวบังกระดาษที่เขียน และอาจารย์ให้นักศึกษาออกมาลองเขียนหน้าชั้นเรียน



   และกิจกรรมสุดท้ายในการเรียนวันนี้คือ กิจกรรมการทำนิทานของเด็กและคุณครูในชั้นเรียน ซึ่งเป็นนิทานในหัวข้อ ทะเลของหนู โดยถามเด็กในห้องว่าทะเลของหนูเป็นอย่างไร อาจารย์ก็ให้เพื่อนๆนักศึกษาในห้องช่วยกันตอบ หลังจากนั้นก็แบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้ทำหน้าปก กลุ่มที่เหลือให้ทำเนื้อหาในเรื่องและวาดภาพระบายสี

วาดภาพระบายสี

ผลงานกลุ่มของฉัน

 เป็นตัวแทนกลุ่มถือผลงานในนิทานเรื่องทะเลของหนู

การนำไปประยุกต์ใช้
 1.นำบทเพลงที่ฝึกร้องไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคต
 2.ความรู้ที่ได้จากทฤษฎีนำไปเป็นการต่อยอดความรู้ในการเรียนการศึกษาต่อไป
 3.จากกิจกรรมการฝึกเขียนหน้าชั้นเรียน ช่วยทำให้เราได้รับความรู้และสามารถนำไปประยุกต์ในการเรียนการสอนต่อไปในอนาคต
 4.จากกิจกรรมลิ้นพันกัน ทำให้รู้ว่าเมื่อได้รับการฝึกฝนจะทำให้เราเก่งขึ้นได้
 5.การเสริมแรงทางบวกเมื่อเด็กทำดีควรชมเชย หรือให้รางวัล การเสริมแรงทางลบ หากเด็กทำผิดไม่ควรตี การตีควรเป็นวิธีสุดท้าย ถ้าเด็กทำผิดจริงๆเด็กๆจะได้รู้และไม่อยากทำอีก

การประเมินผล

 ประเมินตนเอง
   ได้รับความรู้มากมายจากหลายกิจกรรมภายในห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงที่มีการร้องผิดคีย์บ้าง หรือการเรียนทฤษฎีช่วงแรกง่วงนอนเพราะไม่ค่อยสบาย แต่อาจารย์มีคำถามกระตุ้นสมองให้ตอบเร็ว คิดเร็ว ทำให้หายง่วงและปลุกสมองตอนเช้าได้ เนื่องจากนี้ยังมีส่วนร่วมร่วมกันทำงานกลุ่มในการออบแบบวาดภาพ ระบายสีอีกด้วย

 ประเมินเพื่อน
    เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆในห้องมาก ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การออกไปพูดลิ้นพันกันหน้าชั้น การฝึกเขียนหน้าชั้นเรียนเวลาสอนเด็ก รวมถึงการตอบคำถามจากอาจารย์ และการตั้งใจเรียนทฤษฎี

 ประเมินอาจารย์
   อาจารย์ตั้งใจสอน เวลาเรียนทฤษฎีมีการยกตัวอย่างให้นักศึกษาเข้าใจอยู่เรื่อยๆ มีกิจกรรมหลากหลายที่ไม่น่าเบื่อให้นักศึกษาทำ สอนทฤษฎีไม่เร่งรีบ ถามนักศึกษาว่าไม่เข้าใจให้ถามอาจารย์ได้ รวมทั้งปลุกกระตุ้นสมองนักศึกษาโดยการตอบคำถามแบบสนุกๆ ทั้งยังมีเอกสารประกอบการเรียนให้นักศึกษาทุกสัปดาห์ และมีการเตรียมการสอนมาอย่างดี






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น